เรื่องราวของ "พรมเปอร์เซีย" จากรุ่นสู่รุ่น

พรมเปอร์เซียและเรื่องราวผ่านบทเพลงจากรุ่นสู่รุ่น

พรมเป็นเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้านที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่ง หากบ้านไม่มีพรมแล้วก็อาจจะดูเป็นบ้านที่ว่างเปล่า หรือบางครั้งอาจจะดูไม่มีมิติ หากจะเปรียบเทียบง่ายๆ ก็คือเหมือนกับ การแต่งหน้าที่ ไม่ได้ลงรองพื้น

สำหรับพรมเปอร์เซียนั้น เป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านที่มีมายาวนานกว่า 2,500 ปี สิ่งที่ทำให้พรมเปอร์เซียโด่งดังไปทั่วโลกเนื่องจาก "ลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์" พรมบางผืนถูกทอขึ้นมาเพื่อบอกกล่าวถึงเรื่องราววิถีชีวิต ตลอดจนความเป็นอยู่ของชาวเปอร์เซียในสมัยนั้น และในบางผืนเล่นลวดลายได้หลากหลาย,สวยงาม, และซับซ้อน ด้วยฝีมือการทอลวดลายที่หลากหลายนี้เอง ทำให้พรมเปอร์เซียกลายเป็นงานศิลปะชิ้นเอกไม่ต่างจากงานวาดภาพของศิลปินชื่อดัง และยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ คุณค่าของงานศิลปะชิ้นนั้น สูงขึ้นอย่างเท่าทวี

(กษัตริย์ Shah 'Abbas I ได้นำพรมเปอร์เซียไปยังเมืองเวนีซ)

(ภาพเพนท์ผนังภายในพระราชวัง Chehel Sutun Pavillion, อิหร่าน)

เดิมแล้วพรมเปอร์เซีย ถูกใช้กันเฉพาะชาวเปอร์เซีย เพื่อเพิ่มความอบอุ่นภายในบ้านในช่วงฤดูหนาว แต่เนื่องจากคุณภาพของขนแกะที่มีความหนา นุ่มเป็นพิเศษ รวมทั้งฝีมือการทอของชาวพื้นเมืองนั้นก็เป็นเอกลักษณ์ ให้ลวดลายที่วิจิตรสวยงาม ทำให้พรมเปอร์เซียเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นในคนหมู่มาก ชนชั้นสูงในเปอร์เซียมักมีสะสมเอาไว้ประดับบารมีของตน จนกระทั่งสมัยยุคทองทางการค้าของเปอร์เซียมาถึง พรมเปอร์เซียก็กลายเป็นที่รู้จักทั่วโลก ถึงจะโด่งดังแล้วแต่ชาวพื้นเมืองก็ยังไม่หยุดพัฒนา ลวดลายของพรม ฝีมือการทอ และวัตถุดิบที่นำมาใช้ ที่ได้มีการเพิ่มเส้นไหม (silk) คุณภาพสูง ผสมกับขนแกะเปอร์เซีย เพื่อเพิ่มความนุ่มและเงางามมากขึ้น ยิ่งเพิ่มมูลค่าให้กับพรมเปอร์เซียได้หลายสิบเท่า จนกระทั่งปัจจุบันนี้ พรมเปอร์เซียก็ยังคงเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูง ราคาของพรมก็เช่นกัน

เมื่อได้กล่าวถึงพรมแล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องกล่าวถึงเสมอนั้นคือเทคนิคการทอพรมในแบบฉบับดั้งเดิม ได้ถูกถ่ายทอดผ่านรุ่นสู่รุ่นผ่านบทกลอน คำร้อง และเนื้อเพลงพื้นเมืองของชาวเปอร์เซีย แน่นอนว่าไม่ได้จำกัดแค่ในเปอร์เซียเท่านั้น เทคนิคการทอและเรื่องราวนั้นได้ถูกถ่ายทอดกันไปจนกลายเป็นอาชีพหลักของหลายๆ ประเทศ อาทิ เช่น ปากีสถาน อัฟกานิสถาน ตุรกี และอินเดีย (โดยเฉพาะแคว้น แคชเมียร์) โดยแต่ละประเทศก็จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นลวดลาย สีสัน แม้กระทั่งเทคนิคการทอ จนทำให้พรมนั้นกลายเป็นสินค้าขึ้นชื่อของแต่ละเมืองจนถึงปัจจุบัน

รู้หรือไม่?

- การถ่ายทอดเรื่องเรื่องของชาวเปอร์เซียนั้น เป็นวิธีที่สร้างสรรค์ไม่แพ้สมัยปัจจุบันเลย นั่นคือ ถ่ายทอดผ่านทำนองเพลง หรือบทกลอน เพื่อให้รุ่นต่อ ๆ ไปจดจำได้ง่าย

- ยุคทองของพรมเปอร์เซีย อยู่ในสมัย Shah Abbas I ภายหลังท่านได้รับการยกย่องเป็น King of King แห่งเปอร์เซีย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ...

https://en.wikipedia.org/wiki/Abbas_the_Great